ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เมนูต้องลองเมื่อไปเที่ยวฝรั่งเศส




 รูปภาพจาก:  Blog Vélib

      croque-monsieur  คร็อก-เมอซีเยอ


โอ้โห หวานใจเมนูที่ชื่นชอบของความฝรั่งเศส ต้องนี่เลย “คร็อก-เมอซีเยอ (Croque Monsieur)” ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1910 ในร้านเล็กๆแถวเขตโอเปร่าในปารีส เมนูนี้เป็นแซนด์วิชที่เหมาะสำหรับมื้อกลางวันมากๆ ประกอบไปด้วยขนมปัง 2-3 แผ่น แฮม ชีส เนย และบางที่ก็ใส่ เบชาเมลซอส (bechamel) ด้วย ซึ่งเป็นซอสขาวที่ปกติจะเอาไว้เสิร์ฟกับสลัด จากนั้นก็เอาแซนด์วิชไปอบ ลองคิดถึงชีสเยิ้มๆ กลิ่นหอมๆดูสิคะ โอ้ย จะอดใจไม่ไหว!
La Maison du Croque Monsieur, 37 Boulevard du Montparnasse, 6th arrondissement (เขต 6)
        bœuf bourguignon สตูว์เนื้อแบบบูร์กอญ
 รูปภาพจาก: Chez René Facebook

Boeuf bourguignon คือสตูว์เนื้อตุ๋นในไวน์แดง พร้อมกับหอมใหญ่ เห็ด และเนื้อหมูชิ้นสดๆแบบลาด่อง (lardon – เป็นการหั่นแบบชิ้นเล็กๆ) เมนูนี้ส่งตรงมาจาก Burgundy เลยนะคะ ลองคิดถึงความนุ่มของเนื้อตุ่นสิกับรสไวน์แดงสิ…
Chez René, 14 Boulevard Saint-Germain, 5th arrondissement (เขต 5)
                   Coq au vin 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Coq au vin

Coq au vin คือไก่ตุ๋นกับไวน์ดง เบคอน และเห็ดต่างๆ โดยไวน์แดงที่เอามาใช้ทำอาหารเนี่ยนะคะ ส่งตรงมาจาก Burgundy เลยนะ แต่ว่าไม่ใช่ทุกๆที่ในฝรั่งเศสที่จะใช้ไวน์จาก Burgundy เสมอไป อาจจะใช้ไวน์จากที่อื่นๆบ้างแต่รสชาติก็ยังอร่อยอยู่เหมือนเดิมเลยล่ะค่ะ! แต่ถ้าจะให้แนะนำร้านที่เขาทำเมนูไก่ตุ๋นไวน์แดงได้อร่อยมากๆเลยเนี่ย ก็ต้องที่ย่านแซงต์ แฌร์แม็ง เดส์ เพร (Saint Germain des Près) ที่กรุงปารีสนี่แหละค่ะ ร้านอาหารที่่ว่านี้ก็คือ Café Procope เป็นร้านอาหารและคาเฟ่ที่เก่าแก่ที่สุดในปารีสเลย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1684 เคยเป็นสถานที่ที่เหล่าศิลปินและนักอัจริยะต่างๆในสมัยนั้นมานั่งคุยนั่งเล่นกัน ในช่วงการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส ร้านอาหารแห่งนี้ก็เคยเป็นสถานที่ที่นักปฏิบัติเคยมานั่งประชุมกันด้วยนะ อย่าลืมนะคะ ถ้าได้มาที่ร้านอาหารแห่งนี้แล้ว อย่าลืมสั่ง coq au vin นะ
Café Procope, 13 Rue de l’Ancienne Comédie, 6th arrondissement (เขต 6)

       Soupe à l’oignon
 รูปภาพจาก: Pangcouver

ทำเป็นเล่นไป เห็นชื่อธรรมดาๆแบบนี้ รสชาติกับส่วนผสมไม่ธรรมดานะ ซุปหัวหอมหรือ soupe à l’oignon เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสเลยทีเดียว ส่วนผสมก็มีน้ำสต๊อกเนื้อ หัวหอม ออนท๊อปด้วยชีส และขนมปัง หลายคนบอกว่าเมนูนี้ได้รับการสรรค์สร้างโดยกษัตริย์หลุยส์ที่ 5 เกิดจากเมื่อพระองค์ทรงล่าสัตว์และทรงโปรดที่จะรับประทานอาหาร และส่วนประกอบ ณ ตอนนั้นก็มีแต่หัวหอม เนย และแชมเปญ
Le Pied de Cochon, 6 Rue Coquillière, 1st arrondissement (เขต 1)

FOIE GRAS
 รูปภาพจาก:  TripAdvisor

ฟัวกรา (Foie Gras) หรือที่เรารู้จักกันในนาม ‘ตับห่าน/เป็ด’ นี่แหละค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หรูหราและเลิศรสมากๆ เมนูที่ขึ้นชื่อนี้มาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ฟัวกราของที่นี่มีความพิเศษมาก และจะเสิร์ฟพร้อมกับ “magret de canard” (ส่วนอกของเป็ด) และ “confit de canard” (เป็ดกงฟีย์) ด้วย ต้องลองๆ
Comptoir de la Gastronomie, 34 Rue Montmartre, 1st arrondissement (เขต 1)

POT AU FEU
 รูปภาพจาก: Le Figaro
 ปอโตเฟอ (Pot au feu) เป็นเมนูสตูว์เนื้อกับผัก (แครอท, หัวผักกาด, กระเทียม, ผักชีฝรั่ง และหัวหอม) และเนื้อกระดูกอ่อน (หางและไขกระดูก) แค่ส่วนผสมก็น่ากินแล้วใช่ไหมล่ะคะ ส่วนไขกระดูกจากสตูว์เนืี่ย ถ้ากินแบบดั้งเดิมเลยคือจะกินพร้อมกับขนมปังปิ้งโรยด้วยเกลือทะเล ส่วนผักก็จะกินกับมัสตาร์ด Dijon เมนูนี้พร้อมเสิร์ฟให้ความฝรั่งเศสได้ลิ้มรสกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1600 ร้านอาหารที่มีสุดยอดปอโตเฟออยู่ก็ต้องที่ Brasserie Lipp เลยค่ะ อาจจะไม่มีชื่อเสียงเท่าร้าน Café de Flore หรือ Les Deux Magots แต่รสชาติอาหารจาก Brasserie Lipp ก็ไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ และยังเป็นร้านที่เหล่านักอัจฉริยะสมัยก่อนชอบมานั่งชิวกันด้วยนะ
Brasserie Lipp, 151 Boulevard St Germain, 6th arrondissement (เขต 6)

POULET RÔTI
 รูปภาพจาก:  Pinterest

ไก่อบ หรือ “Poulet Rôti” เป็นอีกเมนูคลาสสิคของฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นบ้านไหนๆหรือร้านอาหารไหนๆในฝรั่งเศสก็กินเมนูนี้กันทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ ไก่ที่ใช้ในเมนูนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไก่ที่ถูกเลี้ยงโดยให้กินหญ้า ถ้าอยากจะลองลิ้มรสดูล่ะก็ ไปที่ตลาดนัดขายอาหารของชาวฝรั่งเศสเลยค่ะ เพราะมีไก่อบให้เลือกกันหลายร้านเลย และชาวฝรั่งเศสเขาก็ขายเฉพาะไก่อบสดๆใหม่ๆด้วยนะ

CREME BRULÉE
 รูปภาพจาก: Gastro & Co

แครมบรูว์เล (Creme brulée) เป็นเมนูของหวานสุดคลาสสิคของฝรั่งเศสที่พลาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ โดยส่วนผสมก็จะมีคัสตาร์ดที่ทำมาจากไข่สดๆ ตบท้ายด้วยคาราเมลอบด้านบน คุณจะได้ลิ้มรสกับคัสตาร์ดวานิลลาเนื้อละเอียดอ่อนและอ่อนๆกลิ่นของดอกส้ม สามารถสั่งเมนูนี้ได้จากร้านอาหารฝรั่งเศสเกือบทุกร้านเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าเด็ดจริงๆต้อง La Fontaine de Mars ทีมงานไปลองมาแล้ว อร่อยมากจริงๆ ใครไปเที่ยวหอไอเฟลก็แวะไปได้ค่ะ ร้านอยู่ไม่ไกลจากหอไอเฟลเลย
La Fontaine de Mars, 129 Rue Saint Dominique, 7th arrondissement 


                                                  




อ้างอิง: https://insidr.co/th






















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สุดโรแมนติก ณ ควิเบก แคนาดา

“เมืองควิเบก” ( Quebec, Québec ) หรือภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า เกแบ็ก  ( Québec ) เป็นเมืองหลวงของ  รัฐควิเบก เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด...